วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

10 สิ่งห้ามพลาด ถ้าอยากผิวใสไร้สิว

10 สิ่งห้ามพลาด ถ้าอยากผิวใสไร้สิว
 
สิวเป็นปัญหาหนักอกของใครหลายคน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เรื่องที่เกี่ยวกับสิวบางเรื่องเรายังมีความเชื่อและเข้าใจแบบผิดๆ กันอยู่ อย่าให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้อง มาทำให้ผิวของคุณต้องเห่อไปด้วยสิวเถอะ!
      
       1. การล้างหน้ามากกว่าวันละ 2 ครั้งไม่ได้ช่วยให้สิวลดลง มิหนำซ้ำยังอาจทำให้สิวเห่อมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เนื่องจากการล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจรบกวนผิวและกระตุ้นให้เกิดสิวได้
      
       2. แสงแดดสามารถฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ แต่ไม่สามารถทำให้สิวยุบหรือป้องกันสิวได้
      
       3. สิวหัวดำไม่ได้เกิดจากความสกปรกหรือฝุ่นละอองอย่างที่เข้าใจกัน แต่เกิดจากเมื่อหัวสิวเปิดและทำปฏิกิริยากับอากาศภายนอก
      
       4. สิวสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย บางคนสมัยวัยรุ่นไม่มีสิว แต่พออายุเลย 30 เริ่มมีสิว
      
       5. คนเป็นสิวไม่ได้หมายความว่ารักษาความสะอาดผิวไม่เพียงพอ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน
      
       6. การแต่งหน้าไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว แต่เกิดจากทำความสะอาดหลังแต่งหน้าไม่หมดจด ทำให้เกิดสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขน
      
       7. ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ระบุชัดเจนว่าการรับประทานอาหารมันหรืออาหารทอดมีส่วนทำให้เป็นสิว
      
       8. การนอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงจะช่วยให้สิวอักเสบหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากการพักผ่อนที่เพียงพอช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น จึงช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในร่างกาย
      
       9. เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเราดูแลอย่างถูกวิธีก็สามารถควบคุมได้ เช่น พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ รับประทานผักและผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
      
       10. สิวไม่สามารถติดต่อกันได้ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าการใกล้ชิดหรือสัมผัสจะทำให้เราเป็นสิว หากทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าถูกวิธีและเหมาะสมกับสภาพผิว

       แก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุ ลด 4 ปัจจัยก่อสิวอย่างได้ผล
      
       เภสัชกรหญิงกัญธิชา ศรีสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กล่าวว่า “คุณผู้หญิงหลายท่านอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมสิวถึงเป็นๆ หายๆ และมักจะกลับมาเป็นจุดเดิม ยิ่งพยายามใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีคุณสมบัติในการลดสิวและความมัน ไม่เพียงสิวไม่หาย แต่บางครั้งกลับเป็นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม แถมยังทิ้งรอยหลุมสิว รอยแดง รอยดำจากสิวตามมา หลายคนคงคุ้นเคยหรือเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน มลภาวะ อาหาร อารมณ์หรือการพักผ่อน
      
       แต่ความเป็นจริงแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณได้สรุปปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวออกมาเป็น 4 ปัจจัยหลัก คือ ความมัน สิ่งอุดตัน แบคทีเรียสะสมและการระคายผิว ซึ่งแต่ละปัจจัยนำไปสู่ปัญหาสิวที่แตกต่างกันไป ปัจจัยแรก ความมันส่วนเกิน เกิดจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินความต้องการของผิวจนเกิดเป็นความมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้ามันเสี่ยงต่อการอุดตันและเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวต่างๆ และปัญหาร่องรูขุมขนกว้างตามมา ปัจจัยที่สอง สิ่งอุดตัน ที่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งความมันสะสมในร่องรูขุมขนรวมตัวกับสิ่งสกปรก การทำความสะอาดผิวไม่ดีพอ ไปจนถึงเซลล์ผิวเก่าที่ไม่ผลัดออกเนื่องจากความผิดปกติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งยังผลให้เกิดสิวอุดตันทั้งชนิดหัวขาวและดำ ปัจจัยที่สาม แบคทีเรียสะสม ซึ่งเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า P.acne จนทำให้เกิดสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ที่มีส่วนในการทำให้เกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำบนใบหน้าหลังสิวหาย ซึ่งใช้เวลาในการรักษานาน และปัจจัยสุดท้าย การระคายผิว จากสารระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือการตกค้างของสารจากเครื่องสำอาง ที่นำไปสู่การอักเสบใต้ผิวจนบวมแดง จนเกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำ และทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนกระจ่างใส

ที่มา
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135725

รูปร่างบกพร่องไม่ต้องหวั่น! เรามีเทคนิคเลือกชุดว่ายน้ำใส่แล้ว "เป๊ะ" มาบอก

ร้อน ร้อน ร้อน เหงื่อแตกซิกแบบนี้ อย่ามัวแต่กลัวหลบแดดอยู่ในบ้าน แต่ได้เวลาแห่งการโชว์สัดส่วนโดดน้ำตูมตูมแล้วนะจ๊ะสาวๆ

และ..หากใครไม่กล้าใส่ ชุดว่ายน้ำ ยกมือขึ้นสูงๆ อย่าไปมัวเขินอายกันเลยจ๊ะ แต่หากคุณไม่กล้าที่จะใส่ชุดว่ายน้ำเพราะหุ่นไม่เป๊ะ! หุ่นแห้งเหี่ยว หรือสะบึมอึ๋มไปทั้งร่าง งั้นเรามีเทคนิกหาชุดว่ายน้ำเลิศๆ เด็ดๆ ไว้ใส่ขยี้ใจชายมาฝากกันค่ะ

เทคนิคเลือกวันพีซ
ขอนำเทคนิคสุดง่าย ในการเลือกชุดว่ายน้ำแบบวันพีช (1 piece) หากคุณเป็นสาวที่มีหน้าอกเล็ก แฟบ แบนแต้ดแต๋เป็นไม้กระดาน ควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบวันพีช ที่มีทรงเสริมในตัว เพื่อรูปร่างที่ดูดีสมส่วน

หรือถ้าคุณเป็นสาวขาสั้น มะขามข้อเดียว ควรใส่ชุดว่ายน้ำแบบวันพีช ที่มีขาเว้าสูงขึ้นไป เพื่อทำให้ดูขายาวเรียวขึ้นนะ

อ๊ะ! แต่ถ้าเป็นสาวขาใหญ่ สะโพกทอร์นาโด ชุดว่ายน้ำแบบวันพีชควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบกระโปรงคลุมเพื่ออำพรางสะโพกอันเบ้อเริ่มเทิ้มจะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นนะฮะ

เทคนิคเลือกทูพีซ
->สาวอกบึ้ม
สาวอกโต ล้นทะลัก ใครว่าแซ่บ เพราะมันทั้งหนักอกหนักใจ จะหาชุดว่ายน้ำทีก็หวั่นพวกถ้ำมอง เพราะทะลักทะล้นจนคนมองแต่หน้าอก!

แล้วจะเลือกอย่างไรล่ะ…ห้ามเด็ดขาด ชุดว่ายน้ำแบบเกาะอก สายสปาเก็ตตี้ สายเดี่ยวเสียวหลุดทั้งหลายแหล่ เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันหลุดโพล๊ะ!ได้ ถ้าไม่อยากโป๊ลอง ชุดว่ายน้ำแบบคล้องคอ มีแบบเก๋ๆให้เลือกเพียบ ใครจะเลือกแบบทูพีซ (2 pieces) เน้นชุดที่มียางยืดใต้หน้าอกหนาๆเล็กน้อย หรือจะเป็นแบบมีโครงก็จะช่วยเก็บทรงให้ดูดีขึ้นด้วยอีกแน่ะ

->สาวอกแฟบ
สาวอกเล็กแบนแต๊ดแต๋มักจะเข้าใจผิดว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำแบบปกปิดมิดชิดอย่างชุดเต็มตัว เพื่ออำพรางรูปร่าง แต่แบบนั้นจะทำให้ดูแบนราบเป็นไม้บรรทัดไปทั้งตัว ควรเลือกชุดที่คอวีลึกนิดๆ มีสายคล้องคอ หรือทูพีชเสริมฟองน้ำให้อกตูมเล็กน้อย จะช่วยให้เป็นสาวอกเล็กแบบสมส่วน

->สาวลำตัวยาว
สาวที่มีช่วงเอวยาว ถ้าใส่บิกินี่น้อยชิ้นเมื่อไหร่ดับอนาถแน่แท้ เพราะจะเป็นการเน้นช่วงเอวที่ยาวอยู่แล้ว ให้ยืดยาวหนักเข้าไปอีก

ควรจะพรางเอวด้วยชุดว่ายน้ำทูพีชที่ท่อนบนยาวลงมาใต้อกตั้งแต่ 3 นิ้ว จะคลุมถึงเอวหรือยาวไปจนถึงปิดสะดือก็ได้ ส่วนท่อนล่างเป็นบิกินี่แบบไฮคัต (Hi Cut) จะทำให้รูปร่างดูสมส่วนมากขึ้น


->สาวเอวสั้น
อย่าเด็ดขาดไม่ควรปกปิดหน้าท้องหรือพุงกระทิด้วยชุดแบบกางเกงขาสั้นเอวสูง ควรจัดเต็มกับชุดทูพีชสไตล์เอวต่ำหรือมีลายแบบทางลงจะช่วยให้ช่วงเอวดูยาวสมส่วนขึ้น

หรือชุดวันพีชคอวีลึกที่มีโบว์หรือเข็มขัดตกแต่งตรงสะโพกดึงดูดสายตา หรือชุดว่ายน้ำที่มีลายเส้นแบบทะแยงมุมก็เหมาะใช่เล่น

->สาวอวบอ้วน
แม้ชุดว่ายน้ำส่วนใหญ่จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสาวอวบตุ้ยนุ้ย แต่เราก็สามารถเลือกใส่ให้ดูดีได้ แนะนำให้เลือกชุดทูพีชที่เหมือนเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เอาแบบให้โชว์สะดือกรุบกริบ

หรือคอวีคว้านลึกๆ ก็จะช่วยเบนความสนใจของหุ่นเราได้ หรือแบบที่มีการตกแต่งระดับใต้อก ช่วยปิดพุงได้ดีเลยล่ะ

->สาวต้นขาใหญ่
ถือเป็นเฉพาะส่วนที่สาวหลายคนสะพรึงกลัวหั่นวิตกกันหลายนางขาใหญ่เป็นโต๊ะสนุกขนาดนี้ ชุดว่ายน้ำน้อยชิ้นจะพรางไงไหวล่ะ

ห้ามเด็ดขาด ปิดท่อนล่างจนเกินเหตุ บางทีการที่เราตั้งใจปกปิดมากไปก็ทำให้มันเด่นมากขึ้นนะลอง เลือกชิ้นบนให้มีลูกเล่น หรือสีสันฉูดฉาด เพื่อดึงความสนใจ แล้วเลือกชิ้นล่างเป็นกระโปรงที่ไม่พองจนเกินไป หรือแบบกางเกงขาสั้น จะทำให้พรางขาโต๊ะสนุกได้ดีเลยเชียวล่ะ


ที่มา
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000044397

5 ทิปส์เด็ดหน้าเด็ก! เทคนิคเมกอัพลดวัย กลบริ้วรอย ใสปิ๊ง!


5 ทิปส์เด็ดหน้าเด็ก! เทคนิคเมกอัพลดวัย กลบริ้วรอย ใสปิ๊ง!
ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากมีผิวหน้าเด้ง ใส เนียนนุ่มดั่งเด็กน้อยทุกคนแหล่ะนะ เพราะหน้าตานับวันจะแก่แดดแก่ลมขึ้นทุกวี่ทุกวัน ห้ามยังไงมันก็ไม่ฟัง ผิวหน้ามันฟ้องอายุได้นะคะ
      
       เอางี้ ลองดูเรามีทิปส์เด็ดๆ ในการแต่งหน้าที่ช่วยลดอายุแบบง่ายๆ มาฝากกันจ้า
       ทิปส์แรก ->ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง
      
       การใช้ Pressed Powder หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าแป้งตลับ หรือแป้งพัฟฟ์ (Puff) มันคือ แป้งรองพื้นอัดแข็งบรรจุอยู่ในตลับ ใช้กับพัฟฟ์ฟองน้ำ แม้จะพกและใช้เติมหน้าง่ายแต่มันทำให้หนังหน้าเราหนาเตอะ แลดูหน้าแก่ราวหญิงวัยเกษียณ
      
       อยากหน้าเด็กลดอายุจริงควรแป้งฝุ่นโปร่งแสง หรือ Loose Powder เพื่อหน้าสว่างสดใสปิ้งๆ อย่าลืมนะ ต้องแอบมี Shimmer ผสมอยู่ด้วยเพื่อให้หน้าวิ้งปิ๊ง
      
       หลังจากที่คุณทารองพื้นแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการลงแป้งฝุ่น หรือที่เรียกกันว่า Loose Powder กดซับแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้าเพื่อให้แป้งฝุ่นกับรองพื้นหลอมรวมเป็นเนื้อ เดียวกัน ทำให้ใบหน้าแลดูเนียนนุ่มงดงาม
      
       ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ยังใช้ไม่ค่อยชำนาญทา Loose Powder ในปริมาณที่มากเกิน คุณสามารถใช้แปรงปัดแป้งส่วนเกินออกไปได้ เพราะเนื้อแป้งนั้นบางเบากลมกลืนกับผิว และดูดซับความมัน ใช้หลังลงรองพื้นเพื่อความสดใสอ่อนเยาว์ ไม่หนักหน้า
      
       นี่คือ เคล็ดลับของพวกดาราดังเค้าใช้กันนะ เพราะมันทำให้หน้าเอ๊าะขึ้นเป็นกองเชียวล่ะ!
       ทิปส์สอง ->มอบความชุ่มชื่นให้แก่หน้า
      
       ทิปส์ต่อมาของการอยากมีผิวหน้าที่อ่อนเยาว์คือ ไม่ว่าคุณจะใช้ครีมบำรุงหน้า ครีมรองพื้น หรือแป้ง ล้วนต้องมีส่วนผสมของ Moisturerizer หรือ Petroleum Jelly เพื่อเติมน้ำให้ผิว เปล่งปลั่งสดใส ลองคิดดูหากผิวหน้าแห้ง หยาบกร้าน รูขุมขนใหญ่บานตะไท ไม่ว่าจะปกปิดด้วยแป้ง รองพื้นชั้นดีแค่ไหน มันก็ดูแก่อยู่วันยังค่ำ
      
       เพราะผิวที่แห้งกร้านเกิดจากการขาดความชุ่มชื่น ผลที่ตามมาคือริ้วรอยเหี่ยวย่นตาม ตีนกาโผล่ตบเท้ากันมาให้พรึ่บ!
      
       หากอยากมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย หนุ่มสาวอยู่ตลอดเวลา จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องสำอางที่เติมความชุ่มชื่นให้กับผิวนะจ๊ะ
       ทิปส์สาม ->ปกปิดรอยดำด้วยคอนซีลเลอร์
      
       การลงคอนซีลเลอร์ (Concealer) นั้นเป็นตัวช่วยที่ดีและเคล็ดลับหน้าเด็กอย่างหนึ่งเพราะช่วยปกปิดจุดด่างดำบนใบหน้า รอยคล้ำใต้ตา และรอยสิวได้
      
       เคล็ดลับในการใช้คอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดจุดด่างดำนั้นควรใช้พู่กันแต้มคอนซีลเลอร์มาทาลงบนจุดด่างดำขนาดใหญ่และเห็นได้ชัดก่อนนะ จากนั้นให้ลงรองพื้นประจำตัวให้ทั่วใบหน้าเลย ถ้าอยากหายเกลี้ยงเข้าไปอีกนั้น ขอแนะนำเพิ่มเติมให้ใช้พู่กันปลายแหลมๆ จุ่มแต้มคอนซีลเลอร์มาแต้มจุดเล็กจุดน้อยแบบเก็บรายละเอียด
      
       ส่วนรอยคล้ำใต้ตานั้น แนะให้รีบหาซื้อคอนซีลเลอร์ที่ใช้ทาใต้ดวงตา (Eyes Concealer) เฉดสีที่อ่อนกว่าสีผิว 1 เฉดมาเลย ห้ามมั่วซั่วใช้ปนกันนะ เพราะว่ารอบดวงตาเรานั้นบอบบาง ต้องคู่ควรกับคอนซีลเลอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ใต้ดวงตาแถมถนอมผิวเท่านั้น อีกอย่างนะ ถ้าใครขืนใช้คอนซีลเลอร์แบบอื่นมาทาใต้ตา หลังจากทาไปแล้วเนื้อครีมจะหนาเตอะ ยิ้มทีจะเห็นเป็นริ้วๆ เหมือนรอยแผนที่ใต้ตาเลยล่ะ
      
       สุดท้ายเพื่อปกปิดรอยสิว หรือเม็ดแดงๆ เพียงผุดขึ้นมาหนึ่งเม็ดก็พาให้เสียเซลฟ์ได้เลย โอ้ย ทายาก็แล้ว บีบก็แล้ว ยังไง้ยังไงมันก็ไม่ยุบ แล้วจะออกไปลั้ลลาข้างนอกได้ไง ปัญหานี้แก้ได้ง่ายๆ ด้วยการใช้คอนซีลเลอร์ปกปิด แต่ขอให้เลือกคอนซีลเลอร์ชนิดที่เป็นแท่งหรือที่มีเนื้อเข้มข้นนะ และถ้าจะให้ดีด้วยก็ต้องเลือกเฉดสีเขียว (Green-based) ด้วย เพื่อปกปิดรอยแดงๆ ของสิวนั่นเอง
      
       อ๊ะ! ยังไม่หมดฮ่ะ เราควรลงคอนซีลเลอร์ที่มีเฉดสีอ่อนกว่าผิวเรา 1 สี บริเวณสันจมูก โหนกแก้ม และคาง ด้วยนะจ๊ะ เพื่อให้หน้ามีมิติ สว่างสดใส ราวเด็กน้อย

       ทิปส์สี่ ->กันขนคิ้วเป็นประจำ
      
       ขนคิ้วที่รกรุงรังนั้นทำให้ใบหน้าดูแก่ ไม่เข้ารูปเข้าทรงได้ การถอนหรือโกนขนคิ้วเพียงไม่กี่เส้นลดอายุคุณได้จริง!
      
       มันคือ เคล็ดลับของการแต่งหน้าให้สวยเเจ่มอย่างหนึ่ง แม้ว่าคุณจะแต่งหน้าสวยขั้นเทพเพียงใด แต่พลาดกันคิ้ว จนขึ้นแทงแซงกันรุงรัง ก็ทำให้หน้าคุณเน่าได้เหมือนกัน
      
       วิธีกันคิ้วนั้นก็ไม่ยากค่ะ แค่ใช้ใบมีดโกนค่อยๆ โกนเบาๆ กันคิ้วให้สวย ตามรูปคิ้วของเรา และใช้กรรไกรช่วยตัดตกแต่ง จากนั้นเก็บรายละเอียดที่ใบมีดเข้าไม่ถึงด้วยแหนบ ผลลัพธ์ที่ได้หน้าคุณจะสวยเฉี่ยวคมขึ้น
       เมื่อกันคิ้วให้สวยเข้ารูปแล้ว สีของขนคิ้วควรเป็นเฉดสีน้ำตาลเพื่อลดความดุของใบหน้า เพราะสีดำอาจทำให้หน้าแก่ขึ้น หาดินสอเขียนคิ้ว หรือผงฝุ่นสำหรับทาคิ้วสีน้ำตาลจะอ่อนหรือเข้ม ก็ตามสีผมเลย คุณจะได้มีใบหน้าที่เด็กขึ้นจริงๆ นะ
       ทิปส์สุดท้าย ->ทำความสะอาดหน้าให้ถูกวิธี
      
       นอกจากหน้าเราจะเด็กผ่องใสเพราะบำรุงด้วย Skincare แล้ว การใส่ใจกับการทำความสะอาดหน้านั้นช่วยทำให้หน้าเอ๊าะกระชากวัยทองได้ พร้อมใบหน้าที่สดใส ปราศจากความมันบนใบหน้า เต่งตึง อิ่มเอิบไม่หยาบหรือแห้งกร้าน
      
       ก่อนล้างหน้าควรเช็ดเครื่องสำอางให้หมดจดให้สิ่งสกปรกและสารตกค้างที่สะสมบนใบหน้าตลอดทั้งวันได้หลุดออกให้หมด เพราะการล้างหน้าอย่างเดียว ผิวหน้าอาจะไม่สะอาดเพียงพอ เนื่องจากเครื่องสำอางบางชนิดล้างออกยาก ซึ่งอาจทำให้มีสิ่งสกปรกต่างๆ ตกค้างอยู่ตามรูขุมขนของใบหน้า เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ จากนั้นจึงล้างหน้าให้สะอาดสะอ้าน
      
       เมื่อทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้วคราวนี้ถึงวิธีบำรุงผิวหน้า อย่าลืมว่าในแต่ละวันเครื่องสำอางต้องอยู่บนใบหน้าวันละประมาณ 10 ชั่วโมง ดังนั้นการให้ใบหน้าได้พักผ่อนก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงการให้อาหารแก่ใบหน้าด้วยจ้า

ที่มา
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000078305

เนรมิตขาคู่สวยให้เรียบเนียนได้ ใน 5 นาที

เนรมิตขาคู่สวยให้เรียบเนียนได้ ใน 5 นาที


ร้อนๆ อย่างนี้ สาวๆ บ้านเรารู้อยู่แล้วว่าเสื้อกล้าม-กางเกงขาสั้น จะกลายเป็นสูตรสำเร็จของการแต่งตัวรับซัมเมอร์ หลายคนเตรียมกางเกงขาสั้นสวยๆ ไว้เต็มตู้ กะว่าร้อนนี้มีเกิด...แต่หลายครั้งหลายคนก็พลั้งเผลอลืมใส่ใจเรียวขาของตัวเองว่า "ไหวมั้ย" บางคนก็มีขนขายาวเกินไปดูไม่เกลี้ยงเกลา บางคนก็มีริ้วรอยหรือหัวเข่าดำดูไม่ชวนมอง...ใครเห็นก็คงต้องเดาไปถึงไหนต่อไหนว่าคุณสาวๆ ขาลายเพราะไม่ใส่ใจตัวเอง

ทิปส์เตรียมพร้อมสวยท้าแดดท้าลมรับซัมเมอร์ยังมีมานำเสนอไม่ขาด วันี้เราจึงมาว่ากันด้วยเรื่องของขาคู่สวยสำหรับสาวๆ นุ่งสั้นที่ต้องการอวดเรียวขาอย่างมั่นใจ ไม่ให้ใครแอบเมาท์ว่าเป็นสาวขาลาย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ แต่ได้ผลภายใน 5 นาที...

1. ข้อนี้สาวๆ ขาเกลี้ยงไร้ขนข้ามไปได้ แต่สาวๆ ขนดกทั้งหลายที่ไม่ค่อยจะแฮปปี้กับขนขาที่ดกมาแต่กำเนิด สำหรับเวลาภายใน 5 นาที แน่นอนว่ามันไม่มากพอที่คุณจะคิดถึงเรื่องเลเซอร์กำจัดขน การโกน จึงยังคงเป็นทางเลือกชนิดเร่งด่วนที่จะช่วยคุณได้ คุณสาวๆ สมัยนี้สบายที่มีทั้งครีมขจัดขนให้เลือกหลายยี่ห้อ รวมถึงชุดกำจัดขนที่อ่อนโยนต่อผิวผู้หญิงโดยเฉพาะ

2.หลังโกนเสร็จอย่าเพิ่งรีบออกจากบ้าน ข้อนี้ทุกคนรู้กันว่าหลังกำจัดขนนั้นจะยังรู้สึกระคายเคืองอยู่ ลูบไล้เบบี้ออยล์หรือน้ำมันบำรุงผิวอะไรก็ได้ที่สกัดจากธรรมชาติตามลงไป จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นนุ่มนวลจนสัมผัสได้และลดการระคายเคือง ทั้งยังทำให้ผิวเปล่งประกายยามต้องแดดได้อีกด้วย

3. การลงชิมเมอร์ให้เรียวขาเปล่งประกายเจิดจ้าไม่ใช่การกระทำที่โอเวอร์ ขั้นตอนนี้สาวๆ ยังสามารถลงได้ทั้งตัวให้สีผิวสว่างไสวกลมกลืนกันและปกปิดจุดบกพร่องเล็กๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่บริเวณหลังมือ โหนกแก้ม แผ่นหลัง ส่วนของเรียวขาก็ลูบไล้ชิมเมอร์ให้ทั่วรวมทั้งบริเวณหัวเข่า สาวๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าสปาบำบัดผิวจะใช้เป็นทางลัดก็ไม่ผิดกติกา เท่านี้ก็จะมีขาสวยๆ ที่ดูผุดผ่องน่ามอง นุ่งสั้นท้าลมท้าแดดได้ไม่อายใคร

4. หากต้องออกงานกลางคืน เสริมความเปล่งประกายให้เรียวขาโดยการไฮไลท์ด้วยบรอนเซอร์ ให้ผิวดูมีประกายระยิบระยับรับกับแสงไฟ ทั้งยังดูมีโทนสีแทนสุดเซ็กซี่

เพียงเท่านี้ ขาลาย ปัญหาผิวที่ไม่ชวนมอง ก็จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปสำหรับสาวๆ ที่อยากโชว์ขาในหน้าร้อน...

7 ลุคสวยของผู้หญิง ที่ผู้ชายเห็นแล้ว...สยอง

7 ลุคสวยของผู้หญิง ที่ผู้ชายเห็นแล้ว...สยอง


ผู้หญิงเรามักคิดว่า ลิปส์สีเข้ม กรีดอายไลเนอร์ และทรงผมกระเซิงนิดๆ จะดูเซ็กซี่ แต่ตามจริงแล้วในมุมมองคุณผู้ชายเค้ามองว่า มันกลายเป็น ลุคสยอง มากกว่า !!! และนี่คือ 7 ลุค ที่เรา นำมาบอกต่อกับคุณ



ทรงผม ฟู่ฟ่า
ช่วงเวลาเซ็กซี่สุดๆ ของผู้หญิง คือเมื่อยามที่ผู้ชาย ใช้นิ้วไล้ สยายผมคุณลงมา ลองนึกถึงโฆษณาแชมพูสระผมดูสิคะ อย่างนั้นล่ะค่ะ ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ทั้งการทำไฮไลท์สีผม การฉีดสเปรย์ หรือแม้แต่การยืดผม ก็ Just Say No !!! ไปได้เลยค่ะ คุณผู้ชาย บอกว่า ชอบคุณผู้หญิงที่ปล่อยให้ผมสวยตามธรรมชาติมากกว่าการที่คุณผู้หญิงจะมาเติมแต่งอะไรมากมาย ตีโป่ง ประดับประดาซะ...เยอะค่ะ

โบกหน้าหนาเตอะ
ผู้หญิงเราอาจมองหาลุคสวยที่เพอร์เฟ็คท์ที่สุด พยายามปกปิดริ้วรอย จุดด่างดำ ให้หน้าดูเนียนเด้ง แต่ยิ่งพยายามให้เนียน หน้าก็จะยิ่งหนา ทั้งรองพื้น ทั้งแป้ง ทั้งโปะ ทั้งตบ จนคุณผู้ชายทั้งหลายเค้าบอกว่า อยากจะล้างมันออกให้หมดเพราะอยากรู้จริงๆ ว่า ภายใต้หน้ากากหนาเตอะนั้นน่ะ มีอะไรซ่อนอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผู้ชายอยากจะบอกกับเราก็คือ " ลืมไปเลยว่าต้องปกปิดอะไร แต่ให้ผิวหน้าคุณหายใจบ้างเถอะ "

กรงเล็บ นางมาร !!!
คุณผู้ชายจะขนลุกด้วยความสยองเวลาที่เล็บยาวๆ ของคุณ เกาะจิกแขนล่ำๆ ของเค้า ยามคุณควงแขนอ้อนเค้า แค่ตัดเล็มให้สั้นกำลังดี เวลาคุณจะกอด หรือจะควงแขนเค้า จะได้ไม่ดูเป็นนางมาร ในความรู้สึกของเค้าค่ะ

เขียนคิ้วเส้นบางเฉียบ อย่างกะ ผ้าอนามัย Super Slim
อันนี้อย่าว่าแต่คุณผู้ชายจะรู้สึก เป็นผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกเลยค่ะ ว่ามันน่ากลัว !!! เอาเป็นว่า เขียนไล้ตามแนวโค้งของคิ้วให้พอดีๆ ดีกว่า ไม่งั้นคงน่าสยองน่าดู

บล็อคตาเป็นคลีโอพัตรา
คุณไม่ใช่ อลิซาเบธ เทเลอร์ และคุณก็ไม่ใช่คลีโอพัตรา จะมาบล็อคตาทั้งเบ้า เพื่อเดินช็อปปิ้ง ก็กระไรอยู่ แค่แต่งตานิดหน่อยเพื่อให้มีสีสันก็พอ...

ผิวไหม้เกิน สีแทน (แทนที่จะสวย !!!)
ผู้ชาย หรือ ผู้หญิงคนไทยคนไหนก็ไม่ชอบทั้งนั้นล่ะค่ะ กลัวดำกันทั้งนั้น !!! แต่ก็ใช่ว่าแค่ผู้ชายไทยที่กลัว พ่อหนุ่มตาน้ำข้าวที่ชอบมาอาบแดดนักหนาในไทยยังบอกเลยว่า ไม่ชอบหญิงผิวสีแทน ... แทนที่จะสวย เพราะอาบแดดซะจนไหม้เกิน เอาให้พอส้ม ๆ หน่อย เค้ายังรับได้มากกว่า เพราะว่าดูเป็นธรรมชาติค่ะ

ปากวาวยังกับไปทานข้าวมันไก่
ผู้ชายรับได้นะคะ สำหรับลิปกลอสส์ แต่ถ้าทาทั่วปาก จนวาวเกินเหมือนไปทานข้าวมันไก่มา เค้าก็รับไม่ได้ค่ะ เค้าอยากให้เราใช้ Stain lips หรือ ลิปสติกเนื้อด้านเวลาจะไปเดทกับเค้า เค้าว่า มองแล้วสบายตากว่าเยอะ เพราะจูบไม่ลงจริงๆ

ริ้วรอยน่ะเหรอ....จัดการได้ง่ายนิดเดียว

ริ้วรอยน่ะเหรอ....จัดการได้ง่ายนิดเดียว
อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด...อกอิฉันจะแตกค่า คุณขา หลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วส่องกระจกพบว่า "กา กา กา บินร้อง กา กา ออกมาหากิน" ใช่ค่ะ รอยอีกามาเยือนอิฉันซะแล้ว...ว่าไปก็สมควรอยู่หรอกค่ะ ก็อายุปาเข้าไปเลขสามฝ่าๆแล้ว เฮ้อ พยายามจะคิดแค่ว่ายุบหนอ พองหนอ จะได้ไม่ต้องไปกังวลกับมันมาก แต่ก็อดไม่ได้จริงๆค่ะ แบบว่ายอมไม่ได้จริงๆ ไอ้เรื่องไม่สวยหรือเรื่องแก่ๆ เนี๊ยะ ฟังแล้วแสลงหู ยอมตายเสียดีกว่ายอมแก่ค่ะ

กลัวแก่ขึ้นสมองอย่างอิฉัน ก็ต้องหาวิธีการหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะยืดอายุความสาวไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ที่จริงก็ทำมาทุกวิธีแล้วนะคะแบบไหนที่เค้าว่าดีกัน ลองมาหมดแล้วค่ะ และก็เห็นผลนะคะ เลยอยากนำมาฝากกันค่ะ

เริ่มจากการดื่มน้ำ ดื่มเข้าไปเยอะๆ เลย เห็นผลจริงๆ เพราะวันไหนที่ดื่มน้ำเยอะ เห็นชัดว่าริมฝีปากจะไม่แห้ง ไม่ลอก แต่งน้ำแล้วหน้านิ่มๆตึงๆ ด้วย แต่ขอบอกว่าต้องเป็นน้ำเปล่านะค่ะ เซย์โนไปเลยกับน้ำอัดลม เพราะน้ำอัดลมไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใดเลยค่ะ(ในแง่ของวิตามิน และแร่ธาตุ) แต่จะมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง มีกรดสูงมาก และมีสารปรุงแต่งจำพวกวัตถุกันเสีย เช่น โซเดียม เบนโซเอท ที่ได้มาจากกรดเบนโซอิค (Bensoic acid) ซึ่งเป็นกรดที่พบได้ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (พวกมะเม่าในบ้านเรา) แต่กรดถูกนำมาใช้จำนวนมากเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องดื่มขึ้นรา เมื่อโซเดียม เบนโซเอท ผสมกับวิตามินซี ที่เติมในน้ำอัดลม เมื่อทำปฏิกิริยากันจะได้ "เบนซิน" (Benzene) ซึ่งเป็นตัวก่อมะเร็งดีๆนี่เองค่ะ

นอกจากการดื่มน้ำแล้ว การออกกำลังกายก็สำคัญ เห็นได้ชัดว่าจากตัวอิฉันเองนี่แหละค่ะ เนื่องจากเป็นคนผอมค่ะเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องการออกกำลังกายเท่าไหร่ แต่ต้องไปส่งคุณแม่ที่ฟิตเนสบ่อยๆ เข้าก็เลย เอ้าลองเสียหน่อย ปรากฏว่าได้ผลค่ะ เพราะแค่ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพียงไม่กี่เดือน หน้าใสดูมีเลือดฝาดขึ้นมาทันทีสิวอักเสบที่เคยเป็นๆหายๆในวัยสามสิบกว่าๆนั้นก็ลดลงแถมอาการปวดท้องประจำเดือนทุกเดือนชนิดที่ว่าต้องหามส่งโรงหมอฉีดยากันเลยนั้น ก็หายเป็นปลิดทิ้ง อาการครั่นเนื้อครั่นตัว ก่อนประจำเดือนจะมานั้นก็หายไป แถมาตรงเวลานับวันได้เลยค่ะว่า เดือนหน้าประจำเดือนจะมาวันที่เท่าไหร่ ประโยชน์ของการออกกำลังกายเนี้ยะมันเยอะจริงๆค่ะที่สำคัญสุขภาพดีแล้วส่งผลถึงผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง ลดอายุไปได้เยอะทีเดียว

และเมื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จนรู้สึกได้เองว่าสุขภาพดีแล้ว เรื่องต่อมาที่มักสัมพันธ์กันคือ การนอนหลับสบายหลับสนิทตลอดคืน โดยไม่ตื่นเพราะความเปียกชื้น.... 555 ก็หมดไป

ง่ายๆแค่ 3 อย่างที่ว่ามา ก็ส่งผลกับใบหน้าที่อ่อนเยาว์และยืดความแก่ ไปได้แล้ว อ๊ะๆๆ แต่สาวๆ อย่างเราก็ต้องไม่ลืมเครื่องประทินโฉม อย่างครีมบำรุงผิวด้วยนะคะ สำคัญไม่แพ้การปฏิบัติตัวที่กล่าวมาทั้งหมดเลยละ โดยเฉพาะสาววัยอย่างดิฉันแล้วผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดริ้วรอยและเติมความชุ่มชื้น ดูจะเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นทีเดียว

สำหรับสาววัยเริ่มมีริ้วรอยนั้นไม่มีอะไรดีไปกว่า ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยนั่นแหละค่ะ

คราวก่อนเพิ่งไปเจอครีมตัวหนึ่งมา และได้ลองซื้อมาใช้กับตัวเอง ตอนนี้ใช้มาได้ไม่กี่วันเองค่ะ ตอนแรกที่พนักงานสาธิตให้ดูก็ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เลยลองซื้อมาใช้

คุณสมบัติที่สำคัญที่ทำให้สาว ขี้ (งก) อย่างดิฉันถึงกับยอมควักกระเป๋าจ่ายอย่างง่ายดาย คือ Instant Deep Wrinkle Filler แปลเป็นไทยง่ายๆว่า ก็คือ เป็นครีมที่ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกแบบทันทีทันใด ๆไม่ว่าจะเป็นระหว่างคิ้ว ใต้ตา ร่องลึก ร่องแก้ม ทาปุ๊ป รอยเหี่ยวหายวับ เหมาะสำหรับใช้ก่อนแต่งหน้า แถมยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมสามารถใช้เป็น Pre Makeup base และใช้เติมระหว่างวันได้ด้วย สรุปง่ายๆ ก็คือคล้ายๆ กับ Makeup base ที่ช่วยกลบร่องลึกนั่นเองเพียงแต่ว่าเจ้าตัวนี้ถ้าใช้ต่อเนื่องก็สามารถจัดอยู่ในกลุ่ม Skincare เค้าว่าหลังจากทาแล้วเนี่ย ริ้วรอยต่างๆ จะตื้นขึ้นประมาณ 68 % กันเลยที่เดียวแต่ก็ใช่ว่าประสิทธิภาพจะมีแค่ช่วงที่ทานะ เค้าว่าถ้ายิ่งทาต่อเนื่องกันเนี่ยริ้วรอยก็จะค่อยๆตื้นขึ้นด้วย

ไหนลองดูสิว่า มันจะทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้นได้อย่างไรกัน ตามที่หาข้อมูลเพิ่มความอยากได้ให้กับตัวเองเค้าว่า มันประกอบไปด้วยสารสกัดจากพืช ที่จะช่วยผ่อนคลายอารมณ์กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น รอยตีนกาแลดูลดลง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ทำให้ผิวแลดูเปล่งปลั่งเนียนเรียบยิ่งขึ้น และยังมีส่วนผสมจากเพ็บไทด์(Peptide) ชนิดหนึ่งที่จะไปทำให้ผิวของเราเสริมสร้างคอลลาเจนโดยธรรมชาติ และช่วยริ้วรอยบนผิวหน้า ซึ่งจะช่วยเตรียมผิวให้พร้อมที่จะทำงานฟื้นสภาพผิวตามธรรมชาติและให้ริ้วรอยที่มองเห็นได้ดูลดลงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

ฟังดูดีมากๆเลยค่ะ และยิ่งได้ใช้ ก็ยิ่งชอบ ริ้วรอยหายไปทันตาจริงๆ อย่างน้อยก็ช่วยลดอายุไปได้บ้างแหละค่ะ แต่อย่าลืมใช้ร่วมกับเคล็ดลับที่แนะนำไว้ตอนต้นด้วยนะคะ รับรอง สวยเด้งเลยค่ะ คอนเฟิร์ม

ทิปส์ที่ต้องทำเพื่อผมสวย

ทิปส์ที่ต้องทำเพื่อผมสวย

ทิปส์ดีๆ แปลกๆ ที่จะช่วยให้คุณมีเส้นผมสวยสลวยชวนมองแบบไม่พึ่งเอฟเฟ็กต์ ที่อยากแนะนำให้ลองทำ
Healthy HAIR, To Do Now!


การดูแลสุขภาพเส้นผมมีหลักการไม่ต่างกับสุขภาพกาย เพราะต่างก็ใช้หลักการเดียวกันคือ ความใส่ใจประจำวันสามารถป้องกันปัญหาใหญ่ได้ และนี่คือทิปส์ดีๆ แปลกๆ ที่จะช่วยให้คุณมีเส้นผมสวยสลวยชวนมองแบบไม่พึ่งเอฟเฟ็กต์ ที่อยากแนะนำให้ลองทำ Chic Your Hair Now!

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ทรีตเมนต์ ที่ผลิตแบบออร์แกนิกซึ่งใช้วัตถุดิบและกรรมวิธีจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีให้มากที่สุด เพื่อปกป้องและบำรุงผมให้สุขภาพแข็งแรง สวยงามแบบยั่งยืน

2. เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมจากส่วนประกอบจมูกข้าว, โจโจ้บา, น้ำมัน-มะพร้าว, เคราติน, วิตามินไบโอติน, แพนทีนอล, วิตามินเอ, อี และน้ำมันสกัดจากธัญพืช จะช่วยบำรุงรากผม ป้องกันการหลุดร่วง


3. ระหว่างสระผม ควรใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ ให้ทั่วศีรษะอย่างน้อย 5 นาที หลังล้างออก นวดด้วยครีมนวดอีก 5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดบริเวณรากผม


4. ควรปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติ หรือใช้พัดลมช่วยเป่าให้แห้ง หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด ทั้งเครื่องเป่าผม แกนดัดลอน หรือที่หนีบผม


5. รักษาความสมดุลของรูปร่าง และหากคุณกำลังอยู่ในช่วงจำกัดแคลอรี ก็ควรรับประทานอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ ตามความต้องการที่จำเป็นของร่างกาย เป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุดต่อความสวยงามของเส้นผมมากกว่าการทำทรีตเมนต์ หรือใช้เซรั่มบำรุง


6. ควรสระผมและนวดระหว่างลงแชมพู ครีมนวดทุกวัน หรืออย่างน้อยวันเว้นวัน เพื่อกระตุ้นระบบสมดุลของหนังศีรษะ และช่วยเสริมการสร้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผมตามกระบวนการธรรมชาติ


7. เลือกแชมพูที่มีค่าพีเอชเป็นกลาง หลังสระควรล้างด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำเย็นเล็กน้อยเพื่อความเงางาม อย่าใช้น้ำร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้เส้นผมอ่อนแอ


8. ไม่ควรแปรงผมขณะที่เปียกโชก ควรรอให้หมาดและใช้แปรงที่มีซี่ห่างเพื่อหลีกเลี่ยงการดึงเส้นผมให้ยืดออก ซึ่งทำร้ายเส้นผม


9. กำจัดรังแคด้วยการใช้น้ำมันโจโจ้บาผสมน้ำมันโรสแมรี่สกัด 1-2 หยด หรือน้ำมันสกัดจากชา นวดศีรษะ 15 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยบำรุงเส้นผมหากทำเป็นประจำทุกสัปดาห์


10. ฟื้นฟูผมแห้งเสียด้วยการใช้น้ำผลไม้สกัด Apple Cider ผสมน้ำในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง นวดเส้นผม และล้างออก จากนั้นค่อยตามด้วยครีมบำรุงผมเนื้อเข้มข้นสูตรธรรมชาติ ทำเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ เส้นผมจะค่อยๆ กลับมีชีวิตชีวา และเงางาม


11. เพื่อเส้นผมที่เงางาม ควรแปรงด้วยหวีจุ่มน้ำมันสกัดคาโมมายล์ หรือน้ำมันสกัดจากเลมอน ผสมน้ำมันโจโจ้บาในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง และปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติทุกวัน อย่าใช้น้ำมันต่างๆ กับเส้นผมโดยไม่ได้ผสมโจโจ้บาเด็ดขาด เพราะความเข้มข้นจะทำร้ายเส้นผมให้เสียสวย


12. ถ้าไม่มีเวลา แต่ต้องการให้เส้นผมดูเงางาม ให้ใช้น้ำมะนาว 1 ผล ผสมน้ำอุ่น 1 ลิตร ล้างศีรษะหลังนวดผม แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ เส้นผมจะเงางามทันใจ


13. ผมลีบแบน ควรหลีกเลี่ยงการใช้หวีจากวัสดุพลาสติก เพราะไฟฟ้าสถิตจะยิ่งทำให้เส้นผมแย่ลง และไม่ควรใช้ที่คาดผม ยางรัด หรือเครื่องประดับที่รัดกระชับเส้นผม วิธีที่ดีคือการใช้แปรงจากไม้ หรือกระดูกสัตว์ซี่ห่าง หวีแต่งทรง และปล่อยผมตามธรรมชาติ เพื่อให้ผิวผมได้หายใจ

ถึงจะเกิดมาสวยแบบไม่ได้เลือก แต่สาวอย่างเราก็มีผมสวยเลือกได้ จริงมั้ยคะ ว่าแต่ว่าจะทำไงดีล่ะ ถ้าทำตามทิปส์แล้ว ผมดันสวยเกินหน้าเกินตา อย่างนี้มิต้องหันหลังเฟลิร์ตหนุ่มหล่อเหรอคะ เอาเหอะ ไว้ค่อยคิดทีหลัง อย่างน้อยชีวิตนี้ก็มีอะไรที่สวยสุดๆ สักอย่างแบบอวดออกวัดวาได้ก็ละกัน อิอิ

ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Women Plus

แค่ดื่ม “คอลลาเจนผง” แล้วเต่งตึงขาวจั๊วะ เรื่องจริงหรือเพ้อไปเอง

 

แค่ดื่ม “คอลลาเจนผง” แล้วเต่งตึงขาวจั๊วะ เรื่องจริงหรือเพ้อไปเอง!?

นับวันวัฒนธรรมความบ้า "ขาว" จะยิ่งทวีความแรงมากขึ้น เอะอะขอขาวใสไว้ก่อน สุขภาพมาที่หลัง ผลิตภัณฑ์เพิ่มความขาวใสในรูปแบบกินดูจะปลุกใจผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สิ่งที่กินเข้าไปเขายัดส่วนผสมอะไรในฉลากบ้าง แม้จะขาวเพียงชั่วครู่ชั่วยาม ตังค์หมดเลิกกินก็หายขาว พวกนางก็ยอม!
      
       และความขาวแบบง่ายๆ มักครองใจคนรุ่นใหม่เสมอ เทรนด์ใหม่ล่าสุด! คอลลาเจน (Collagen) ในรูปแบบผง 1 ซองต่อ 1 วัน จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซองเดียวชงกับน้ำ หรือเติมในอาหารง้ายง่าย
      
       “ผิวขาว หน้าใส เร่งด่วน เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ !! โดดเด่นด้วยคอลลาเจนเข้มข้น ไม่ต้องฉีดปลอดภัย 100%”
      
       นี่คือตัวอย่างคำโฆษณาสรรพคุณของเจ้าคอลลาเจนผง สาวกความขาวจึงแห่ซื้อมากินเพราะหวังว่าจะขาวและเต่งตึงได้ประโยชน์ 2 เด้ง
      
       นอกจากจะมีส่วนผสมของคอลลาเจนเป็นตัวหลักแล้ว ยังอัดแน่นไปด้วยวิตามินที่ทำให้ขาวขึ้นเช่น วิตามินซี และสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน ด้วยแน่ะ
       อ๊ะ! แต่มิใช่ว่าผลข้างเคียงของคอลลาเจนผงจะไม่มีนะจ๊ะ สาวเรานอกจากจะหน้าตาสะสวย ผิวพรรณเต่งตึงแล้ว ความคิดต้องชาญฉลาด ฟังหูไว้หูกันไว้ด้วย ลองฟังประสบการณ์ตรงของสาวผู้อยากขาวเสียก่อน
      
       "แก อย่าไปเชื่อโฆษณามากนักเลย กินแล้วขาวภายใน 7 วันอ่ะ นี่ชั้นกินมาสองเดือนละ ยังดำตับเป็ดอยู่เหมือนเดิม"
      
       เพื่อนสาวตัวดำผู้อยากขาวเล่าประสบการณ์คอลลาเจนผงยี่ห้อโด่งดังในเว็บไซต์ให้ฟังด้วยน้ำเสียงเซ็งเป็ด ยังไม่หนำใจนางยังเล่าอาการผลข้างเคียงให้ฟังอย่างเสียดายตังค์ว่า
      
       "ยี่ห้อนี้เหรอแก โคตรจะแพงกล่องละสองพันกว่าแน่ะ กินได้แค่เดือนเดียว ชั้นกินเข้าไปนะ แกเชื่อปะ ชั้นวูบทั้งวันทั้งคืน หันหัวเร็วๆ ไม่ได้เลยนะ จะเป็นล้มทันที ใจชั้นนะสั่นมาก พอกันที ชั้นไม่กินละ สองเดือนโดนไปเกือบห้าพัน ไม่มีคนทักว่าขาวสักแอ่ะ เอาเงินไปซื้อหวยดีกว่า ยังได้ลุ้นได้รวยด้วย"
      
       ดังนั้น เราจึงต้องรีบบึ่งไปถามทัศนะของแพทย์อีกมุมหนึ่งเพื่อเป็นการยืนยันการันตีกันดีกว่า ว่าคอลลาเจนผง นั้นทำให้ขาวเร็วได้จริงหรือแค่คำโฆษณาโกยตังค์เข้ากระเป๋าคนขาย
      
       คอลลาเจนผงไร้ประโยชน์ ไม่ดูดซึม เปลือง!
      
       "ครับ คอลลาเจนผง ไม่มีประโยชน์ แทบจะไม่ได้ดูดซึมอะไรเลย จะถ่ายทิ้งออกมาหมด เปลือง" นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Skeyndor Clinic กล่าว
      
       "ถามว่า ทำไมคอลลาเจนผงถึงกำลังเป็นที่โด่งดัง คงจะเป็นเรื่องของการมาร์เก็ตติ้งมากกว่าครับ เพราะสารส่วนใหญ่ที่ออกฤทธิ์จะโดนกรดในกระเพาะทำลายหมด ยกเว้นวิตามินบางชนิดเท่านั้นเท่านั้นเอง
      
       ถ้าจะได้ผล คอลลาเจนต้องฉีดเข้าไป หรือเป็นการใช้ทาข้างนอกและใช้เครื่องมือพิเศษผลักไอออนให้คอลลาเจนเข้าไป หรือมีเลเซอร์บางตัวไปกระตุ้น ไปสั่นเพื่อให้คอลลาเจนเกิดการกระตุ้น ปลุกให้คอลลาเจนตื่นตัว เพราะตอนนี้มันหลับอยู่ พอเข้าไปกระตุ้นมันก็จะตื่นนั่นเอง
      
       และคอลลาเจนสามารถสร้างเพิ่มขึ้นมาได้ เช่น การร้อยไหม หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ผลักหรือกระตุ้น จะทำให้คอลลาเจนตื่นตัวได้"
      
       คุณหมอย้ำว่า "แต่ถ้าใช้กิน ไม่ค่อยเวิร์ก ไม่แนะนำ"
      
       พร้อมอธิบายต่อว่า คอลลาเจนไม่ได้ทำให้ขาวหรอก แต่เป็นเพราะสารตัวอื่นมากกว่าซึ่งผลข้างเคียงเพียบ
      
       "การกินแล้วแล้วขาวนั้น อาจจะเป็นเพราะการผสมกลูตาไธโอน หรือผสมสารปรอท ซึ่งสารปรอทนี่ขาวแน่นอน แต่ผลข้างเคียงเยอะมาก ทำให้ตับ ไต พังหมดเลยครับ ในระยะสั้นขาวจริง แต่ในระยะยาวเป็นผลเสียต่อร่างกายมาก ระยะยาวนั้นถ้าเป็นคนไข้ที่ไม่ได้มีโรคประจำตัว เช่น ตับไม่ได้วาย ไตไม่ได้วาย อาจจะราวๆ 1 ปี ติดต่อกันไตจะเกิดอาการวาย"
      
     กินแล้วขาวออร่า “คิดไปเอง”
       ดังนั้นการทานคอลลาเจนผง คุณหมอฟันโช๊ะว่า กินแล้วไม่ได้ขาวใสปิ๊งขึ้นหรอก แต่เป็นเรื่องของ "การคิดไปเอง”มากกว่า
      
       "ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการเงิน ถ้าซื้อได้ กินได้ รู้สึกดี ก็กินครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องของสุขภาพจิตด้วยนะ ถ้ากินแล้วรู้สึกดี รู้สึก healthy ราคารับไหว กินแล้วไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร ตรวจดูแล้วไม่ได้มีสารปรอท ไม่มีสารเคมีอื่นตกค้างก็สามารถกินได้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องต้องห้ามอะไร
      
       แต่ถ้ากินแล้วจะหวังผลว่ามันจะต้องได้อย่างนั้นขาวได้อย่างนี้ก็คงไม่ใช่จุดประสงค์ เพราะการกินคอลลาเจนผงไม่ได้กระตุ้นให้ขาวได้จึงบอกไม่ได้ว่าทานกี่มิลลิกรัมต่อวันแล้วจะขาว น่าจะเป็นส่วนของกลูต้าไธโอนบวกกับวิตามินซีมากกว่า"
      
       วูบเพราะขาดเลือด ขาวเพราะ "ซีด"
      
       จากประสบการณ์ตรงของเพื่อนสาว ที่นางเล่าว่า ทานคอลลาเจนผงแล้ววูบ ลุกแล้วหน้ามืด ใจสั่น คุณหมอ ตอบว่า
      
       “ส่วนผลข้างเคียง เช่น วูบ วิงเวียนศีรษะ ถ้าเขาเคลมว่าขาวใสภายใน 7 วัน และมีอาการวูบ น่าจะมีกลุ่มของยา Diuretic หรือ กลุ่มของยาขับปัสสาวะ ก็จะทำให้ปัสสาวะเยอะ และลดความดันบางตัว ทำให้ดูซีด จึงทำให้ดูขาว เพราะเกิดจากการซีดนั่นเอง
      
       มนุษย์เราปกติจะมีเลือด เช่น ลองดูจากนัยตาเราซิ จะมีเลือดเส้นเลือดแดงๆ ให้เห็นอยู่ แต่ถ้ากินไปจะเกิดอาการซีดเพราะเลือดน้อยนั่นเอง จะทำให้มีผลในเรื่องความดัน เป็นอาการของ Orthostatic Hypotension เช่น ลุกขึ้นมาวิงเวียนศีรษะ ความดันต่ำ วูบ

       ควรเลิกทานทันที และบำรุงความดันขึ้นมา เช่น กินผักใบเขียว ทานตับให้เยอะ ดื่มน้ำตามเยอะๆ จะช่วยได้ อันนี้ในส่วนของกรณีคนไข้ปกติไม่ได้มีโรคอะไร
      
       หันมาทานผักผลไม้ อาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน ผักใบเขียวทุกชนิด และผักที่มีสีสัน เช่น บีทรูท แครอท ฟักทอง และหากทานบล็อกโคลี่ได้จะมีประโยชน์มาก เพราะคอลลาเจนมาก กล้วยน้ำว้าก็เยี่ยมมาก แอปเปิล กีวี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยได้ และมะเขือเทศ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า สามารถลดอาการ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายได้
      
       ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ คุณพ่อของหมอเองมีต่อมลูกหมากโต ผมจึงให้คุณพ่อทานมะเขือเทศกินทุกวัน ผ่านไป 6 เดือน ไปอัลตราซาวนด์ดูก้อนมะเร็งลดลงไปเลย
      
       สุดท้าย คุณหมอย้ำเตือนสาวๆ ผู้พิสมัยหลงใหลในความขาวว่า
      
       “ต้องระวังเรื่องของมาร์เก็ตติ้งให้มาก เพราะคอลลาเจนจะช่วยให้ความชุ่มชื้นเต่งตึง แต่ไม่ใช่โดยการกิน ต้องเป็นโดยการผลัก หรือฉีดเท่านั้น”
      
       ทำใจ! ไม่มีสารอะไรแก้ความเหี่ยวได้ถาวร
      
       ข้อมูลทางการแพทย์ ระบุด้วยว่า ในปัจจุบันคอลลาเจนได้รับความสนใจในการใช้เป็นอาหารเพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิวหนัง แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดถึงภาวะร่วงโรยของผิวหนังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้งตามกาลเวลาแล้ว ก็พบว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างถาวร
      
       วิธีง่ายๆ บ้านๆ จึงควรดูแลผิวด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของผิว โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินซีซึ่งจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน
      
       ที่สำคัญควรดื่มน้ำที่สะอาดให้มาก พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอควบคู่กันไป ละเว้นจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสภาวะที่มีฝุ่นและควันพิษต่างๆ รวมทั้งแสงแดดจัดๆ ในช่วงเวลา 9.30-15.00 น. ซึ่งจะทำลายผิว

ที่มา
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000132370

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

ทำความรู้จักกับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน

ทำความรู้จักกับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน

นอกเหนือจากการศัลยกรรมที่ทำเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับหน้าตาและเพื่อผิวพรรณที่ตึงกระชับแล้ว การทำศัลกรรมเพื่อรูปร่างที่สวยงามอย่างการ "ดูดไขมัน" ก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่มักถูกเลือกใช้เพื่อที่จะกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกาย

ข้อบ่งชี้ในการดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นกระบวนการกำจัดไขมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่ลดไขมันได้ยาก ไม่ว่าจะควบคุมอาหารหรือว่าออกกำลังกายแล้วก็ตาม นอกจากนี้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ต้องการทำการดูดไขมันก็ต้องแข็งแรง และผิวหนังยังต้องมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างดีด้วย

การดูดไขมันด้วยเทคนิค Tumescent Liposuction หรือการฉีดของเหลว

วิธีนี้จะมีการฉีดส่วนผสมเหลวเข้าไปในบริเวณที่จะทำการดูดไขมันเสียก่อน เพื่อทำไขมันในบริเวณนั้นอุ้มน้ำ และซึ่งจะง่ายต่อการสลายเซลล์ไขมันมากขึ้น โดยบริเวณที่จะทำการดูดไขมันนั้นสามารถเป็นได้ตั้งแต่ หน้าท้อง สะโพก บั้นท้าย ต้นขา ใบหน้า หรือว่าลำคอ

โดยของเหลวที่ฉีดเข้าไปนั้นเป็นส่วนผสมของ น้ำเกลือ (เพื่อรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย) เอพิเนฟริน (epinephrine หรือฮอน์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งจะช่วยบีบขนาดหลอดเลือดลดอาการเลือดออกมาก) และ ยาชา (local anesthetic) จากนั้นจึงทำการดูดไขมันออกมาด้วยหลอดปลายมนขนาดเล็กที่สอดเข้าไปทางรอยผ่าเล็ก ๆ ในบริเวณนั้น


การดูดไขมันด้วยเทคนิค Laser Liposuction หรือสลายด้วยเลเซอร์

เทคนิคการดูดไขมันโดยการใช้เลเซอร์สลายไขมันก่อนแล้วจึงดูดออกนั้น มีผลดีคือ ให้ผลหลังทำได้เช่นเดียวกับเทคนิคการฉีดของเหลว แต่ให้บาดแผลที่เล็กกว่า กระบวนการทำสั้นกว่า และระยะการพักฟื้นเร็วกว่า แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องอาศัยการใช้ยาชาหรือยาสลบอยู่เช่นเดียวกัน โดยอยู่ขึ้นกับขนาดและบริเวณที่ต้องการทำการดูดไขมัน

ส่วนหลักการนั้นคือ การใช้ความร้อนจากเลเซอร์สลายไขมันให้อยู่ในรูปกึ่งเหลว ซึ่งทำให้ดูดออกได้ง่าย นอกจากนี้เลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจลของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูเต่งตึงขึ้นได้ด้วย

การดูดไขมันด้วยเทคนิค Ultrasound-Assisted Liposuction หรือสลายด้วยการอัลตราซาวด์

เทคนิคนี้มีข้อดี เมื่อเปรียบเทียบกับการดูดไขมันแบบดั้งเดิมหรือแบบฉีดของเหลวที่ใช้เวลาน้อยกว่า เกิดอาการเจ็บปวดที่เนื้อเยื่อรอบ ๆ น้อยกว่า เหมาะกับการกำจัดไขมันในบริเวณสะโพก ลำตัวส่วนกลางของร่างกาย และแม้แต่ในชายที่มีปัญหาไขมันหน้าอก (ทำให้ดูมีเต้านมเหมือนผู้หญิง)

หลักการของการดูดไขมันด้วยวิธีนี้ คือการสลายไขมันด้วยพลังงานอัลตร้าโซนิค หรือการอัลตร้าซาวด์ เปลี่ยนไขมันให้อ่อนนิ่มและเหลวมากขึ้น ก่อนที่จะทำการดูดออกมา ก่อนการทำการอัลตราซาวด์ยังคงต้องอาศัยการให้ยาชาหรือยาสลบ ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่ทำการดูดไขมัน จากนั้นแพทย์จะกรีดผิวหนังและสอดเครื่องมือเล็ก ๆ สำหรับที่ปล่อยพลังงานอัลตร้าซาวด์ออกมา เพื่อเปลี่ยนไขมันให้เหลว จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการดูดไขมันต่อไป

การดูดไขมันด้วยเทคนิค Water-Assisted Liposuction หรือการเคลื่อนย้ายด้วยน้ำ

เทคนิคการทำลายไขมันด้วยวิธีนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากวิธีการอื่น ๆ เนื่องจากเทคนิคการกำจัดไขมันโดยการเคลื่่อนย้ายด้วยน้ำนั้น ยังทำให้เซลล์ไขมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และสามารถนำเซลล์ไขมันที่ยังสมบูรณ์อยู่นั้นไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ที่อาจต้องการไขมันได้ ด้วยกลไกการทำงานที่ใช้น้ำค่อย ๆ สลายเซลล์ไขมันให้หลุดจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน แล้วจึงดูดออกมาหรือเคลื่อนย้ายหรือนำไปไว้ที่บริเวณอื่นของร่างกาย ถือว่าได้ประโยชน์ถึงสองต่อเลยทีเดียว

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดูดไขมัน

เช่นเดียวกับการศัลยกรรมและการผ่าตัดอื่น ๆ การดูดไขมันย่อมมีความเสี่ยงเช่นกัน โดยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการทำลายด้วยการดูดออกมีดังนี้

ความเสี่ยงจากการใช้ยาชาและยาสลบ

ผิวช้ำ ห้อเลือด (อันเกิดจากเส้นเลือดเกิดการฉีกขาด เลือดออกและคั่งอยู่ใต้ผิวหนัง)

ผิวบวมน้ำ (seroma)

ผิวชา

ผิวซีดเนื่องจากสูญเสียเมลานิน

เกิดรอยบุ๋ม รอยเหี่ยว หรือรูปทรงที่ไม่เป็นธรรมชาติ

เสียสมดุลของของเหลวใต้ผิวหนัง

อักเสบ ติดเชื้อ

ผิวไหม้จากการเลเซอร์

เสียชีวิต (ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นับเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุด)

การพักฟื้นหลังการดูดไขมัน

ระยะการพักฟื้นหลังการทำการดูดไขมันนั้น แตกต่างกันไปตามแต่เทคนิคกระบวนการในการทำ ปริมาณไขมันที่ดูดออก สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย รวมทั้งทักษะความชำนาญของแพทย์ผู้ลงมือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะต้องอยู่ค้างคืนที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเป็นเวลา 1 คืน ก่อนจะให้กลับได้พร้อมกับคำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่อจัดการกับเลือดและของเหลวที่อาจซึมออกมาจากรอยแผล

นอกจากนี้จะต้องพันผ้าพันแผลที่รัดกระชับ เพื่อลดอาการบวม และช่วยให้ร่างกายบริเวณที่ทำการดูดไขมันคุนชินกับสัดส่วนใหม่หลังการกำจัดไขมัน ส่วนระยะในการใส่ผ้าพันกระชับนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บริเวณที่ทำ และวิธีการในการดูดไขมัน

รอยช้ำ และอาการบวมจะลดลงภายในสัปดาห์แรก แต่อาจมีอาการชาอยู่ในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน แพทย์จะแนะนำให้คนไข้ เดินและออกกำลังเบา ๆ บ้าง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียของเลือด ป้องกันการจับตัวแข็งของเลือดด้วย


การดูดไขมันช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินที่กำจัดได้ยากของร่างกายออกไปได้เป็นอย่างดี ทำให้ร่างกายในบริเวณนั้นดูเฟิร์มกระชับ แต่ทั้งนี้ก่อนจะหันไปพึ่งวิธีการดูดไขมัน ก็ขอให้ตั้งใจลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างจริงจังเสียก่อนนะคะ เพราะวิธีเหล่านี้ล้วนเป็นการกำจัดไขมันที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยง และยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากอีกด้วยค่ะ




ที่มา
http://women.kapook.com/view39014.html