10
สิ่งห้ามพลาด ถ้าอยากผิวใสไร้สิว
สิวเป็นปัญหาหนักอกของใครหลายคน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เรื่องที่เกี่ยวกับสิวบางเรื่องเรายังมีความเชื่อและเข้าใจแบบผิดๆ กันอยู่ อย่าให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้อง มาทำให้ผิวของคุณต้องเห่อไปด้วยสิวเถอะ!
1. การล้างหน้ามากกว่าวันละ 2 ครั้งไม่ได้ช่วยให้สิวลดลง มิหนำซ้ำยังอาจทำให้สิวเห่อมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เนื่องจากการล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจรบกวนผิวและกระตุ้นให้เกิดสิวได้
2. แสงแดดสามารถฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ แต่ไม่สามารถทำให้สิวยุบหรือป้องกันสิวได้
3. สิวหัวดำไม่ได้เกิดจากความสกปรกหรือฝุ่นละอองอย่างที่เข้าใจกัน แต่เกิดจากเมื่อหัวสิวเปิดและทำปฏิกิริยากับอากาศภายนอก
4. สิวสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย บางคนสมัยวัยรุ่นไม่มีสิว แต่พออายุเลย 30 เริ่มมีสิว
5. คนเป็นสิวไม่ได้หมายความว่ารักษาความสะอาดผิวไม่เพียงพอ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน
6. การแต่งหน้าไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว แต่เกิดจากทำความสะอาดหลังแต่งหน้าไม่หมดจด ทำให้เกิดสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขน
7. ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ระบุชัดเจนว่าการรับประทานอาหารมันหรืออาหารทอดมีส่วนทำให้เป็นสิว
8. การนอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงจะช่วยให้สิวอักเสบหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากการพักผ่อนที่เพียงพอช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น จึงช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในร่างกาย
9. เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเราดูแลอย่างถูกวิธีก็สามารถควบคุมได้ เช่น พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ รับประทานผักและผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
10. สิวไม่สามารถติดต่อกันได้ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าการใกล้ชิดหรือสัมผัสจะทำให้เราเป็นสิว หากทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าถูกวิธีและเหมาะสมกับสภาพผิว
แก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุ ลด 4 ปัจจัยก่อสิวอย่างได้ผล
เภสัชกรหญิงกัญธิชา ศรีสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กล่าวว่า “คุณผู้หญิงหลายท่านอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมสิวถึงเป็นๆ หายๆ และมักจะกลับมาเป็นจุดเดิม ยิ่งพยายามใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีคุณสมบัติในการลดสิวและความมัน ไม่เพียงสิวไม่หาย แต่บางครั้งกลับเป็นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม แถมยังทิ้งรอยหลุมสิว รอยแดง รอยดำจากสิวตามมา หลายคนคงคุ้นเคยหรือเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน มลภาวะ อาหาร อารมณ์หรือการพักผ่อน
แต่ความเป็นจริงแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณได้สรุปปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวออกมาเป็น 4 ปัจจัยหลัก คือ ความมัน สิ่งอุดตัน แบคทีเรียสะสมและการระคายผิว ซึ่งแต่ละปัจจัยนำไปสู่ปัญหาสิวที่แตกต่างกันไป ปัจจัยแรก ความมันส่วนเกิน เกิดจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินความต้องการของผิวจนเกิดเป็นความมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้ามันเสี่ยงต่อการอุดตันและเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวต่างๆ และปัญหาร่องรูขุมขนกว้างตามมา ปัจจัยที่สอง สิ่งอุดตัน ที่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งความมันสะสมในร่องรูขุมขนรวมตัวกับสิ่งสกปรก การทำความสะอาดผิวไม่ดีพอ ไปจนถึงเซลล์ผิวเก่าที่ไม่ผลัดออกเนื่องจากความผิดปกติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งยังผลให้เกิดสิวอุดตันทั้งชนิดหัวขาวและดำ ปัจจัยที่สาม แบคทีเรียสะสม ซึ่งเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า P.acne จนทำให้เกิดสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ที่มีส่วนในการทำให้เกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำบนใบหน้าหลังสิวหาย ซึ่งใช้เวลาในการรักษานาน และปัจจัยสุดท้าย การระคายผิว จากสารระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือการตกค้างของสารจากเครื่องสำอาง ที่นำไปสู่การอักเสบใต้ผิวจนบวมแดง จนเกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำ และทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนกระจ่างใส
1. การล้างหน้ามากกว่าวันละ 2 ครั้งไม่ได้ช่วยให้สิวลดลง มิหนำซ้ำยังอาจทำให้สิวเห่อมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เนื่องจากการล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจรบกวนผิวและกระตุ้นให้เกิดสิวได้
2. แสงแดดสามารถฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ แต่ไม่สามารถทำให้สิวยุบหรือป้องกันสิวได้
3. สิวหัวดำไม่ได้เกิดจากความสกปรกหรือฝุ่นละอองอย่างที่เข้าใจกัน แต่เกิดจากเมื่อหัวสิวเปิดและทำปฏิกิริยากับอากาศภายนอก
4. สิวสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย บางคนสมัยวัยรุ่นไม่มีสิว แต่พออายุเลย 30 เริ่มมีสิว
5. คนเป็นสิวไม่ได้หมายความว่ารักษาความสะอาดผิวไม่เพียงพอ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน
6. การแต่งหน้าไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว แต่เกิดจากทำความสะอาดหลังแต่งหน้าไม่หมดจด ทำให้เกิดสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขน
7. ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ระบุชัดเจนว่าการรับประทานอาหารมันหรืออาหารทอดมีส่วนทำให้เป็นสิว
8. การนอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงจะช่วยให้สิวอักเสบหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากการพักผ่อนที่เพียงพอช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น จึงช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในร่างกาย
9. เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเราดูแลอย่างถูกวิธีก็สามารถควบคุมได้ เช่น พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ รับประทานผักและผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
10. สิวไม่สามารถติดต่อกันได้ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าการใกล้ชิดหรือสัมผัสจะทำให้เราเป็นสิว หากทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าถูกวิธีและเหมาะสมกับสภาพผิว
แก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุ ลด 4 ปัจจัยก่อสิวอย่างได้ผล
เภสัชกรหญิงกัญธิชา ศรีสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กล่าวว่า “คุณผู้หญิงหลายท่านอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมสิวถึงเป็นๆ หายๆ และมักจะกลับมาเป็นจุดเดิม ยิ่งพยายามใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีคุณสมบัติในการลดสิวและความมัน ไม่เพียงสิวไม่หาย แต่บางครั้งกลับเป็นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม แถมยังทิ้งรอยหลุมสิว รอยแดง รอยดำจากสิวตามมา หลายคนคงคุ้นเคยหรือเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน มลภาวะ อาหาร อารมณ์หรือการพักผ่อน
แต่ความเป็นจริงแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณได้สรุปปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวออกมาเป็น 4 ปัจจัยหลัก คือ ความมัน สิ่งอุดตัน แบคทีเรียสะสมและการระคายผิว ซึ่งแต่ละปัจจัยนำไปสู่ปัญหาสิวที่แตกต่างกันไป ปัจจัยแรก ความมันส่วนเกิน เกิดจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินความต้องการของผิวจนเกิดเป็นความมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้ามันเสี่ยงต่อการอุดตันและเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวต่างๆ และปัญหาร่องรูขุมขนกว้างตามมา ปัจจัยที่สอง สิ่งอุดตัน ที่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งความมันสะสมในร่องรูขุมขนรวมตัวกับสิ่งสกปรก การทำความสะอาดผิวไม่ดีพอ ไปจนถึงเซลล์ผิวเก่าที่ไม่ผลัดออกเนื่องจากความผิดปกติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งยังผลให้เกิดสิวอุดตันทั้งชนิดหัวขาวและดำ ปัจจัยที่สาม แบคทีเรียสะสม ซึ่งเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า P.acne จนทำให้เกิดสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ที่มีส่วนในการทำให้เกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำบนใบหน้าหลังสิวหาย ซึ่งใช้เวลาในการรักษานาน และปัจจัยสุดท้าย การระคายผิว จากสารระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือการตกค้างของสารจากเครื่องสำอาง ที่นำไปสู่การอักเสบใต้ผิวจนบวมแดง จนเกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำ และทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนกระจ่างใส
ที่มา
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135725