วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เขย่ง-เกร็ง-กาม จากรัดเท้าถึงส้นสูง อุบายสวาทกระชับคูหาสวรรค์!

เขย่ง-เกร็ง-กาม จากรัดเท้าถึงส้นสูง อุบายสวาทกระชับคูหาสวรรค์!

แต่ไหนแต่ไรมา สตรีใดมีรูปร่างสัดส่วนเย้ายวนใจเพศตรงข้าม มักถือว่า โชคดีมีรูปเป็นทรัพย์ สมัยก่อนความเย้ายวนนี้ มีทางแก้ไขได้น้อย แต่ปัจจุบันสถานศัลยกรรมปรับโฉมปรุงสวยมีมากมายให้เลือก

สรีระของผู้หญิงสามารถแก้ไขได้ทุกสัดส่วน ทำได้ทั้งตัวว่างั้นเถอะ แต่ยังคงมีในส่วนเดียว ที่ทุกวันนี้ยังคงมีปัญหาทางเทคนิคที่ไม่สมบูรณ์ จุดที่ว่าตรงนั้นคือ คูหาสวาท

ย้อนยุคข้ามประเทศไปจีนโบราณ เริ่มตั้งแต่ จักรพรรดิลี่หยู แห่งราชวงศ์ถัง หลงใหลนางสนมนาม เย่าเหนียง ที่เต้นระบำได้งดงาม จึงบัญชาให้รัดเท้าด้วยแถบผ้า

ก่อกำเนิดประเพณีรัดเท้าของสาวจีน นับแต่นั้นเป็นต้นมา

สาวจีนสูงศักดิ์ผู้ลากมากดี จึงถูกบังคับในตระกูลให้รัดเท้าตั้งแต่อายุ 4-5 ขวบ ด้วยเกิดคตินิยมว่า ดรุณีใดมีเท้าเล็กเหมือนดอกบัว มีค่าควรที่จะได้เป็นฮูหยิน นางสนม หรือฮองเฮา อย่างมิต้องสงสัย

นิยมถึงขั้นว่า ถ้าเท้ายิ่งเล็กยิ่งเยี่ยม เล็กแค่ 3 นิ้วเรียก “ดอกบัวทอง” 4 นิ้วเรียก “ดอกบัวเงิน” เกิน 4 นิ้วเรียก “ดอกบัวเหล็ก”

หากไม่รัดเท้าหรือเท้าโตกว่านี้ หนีไม่พ้นต้องขึ้นคานสถานเดียว โดดเดี่ยวตลอดไป

ว่ากันว่าอุบายนี้ เป็นแผนของฮ่องเต้ ที่ต้องการไม่ให้นางสนมเร้นหนีเดินเหินออกนอกวังได้ง่าย เพราะเท้าที่แสนเล็กย่อมต้องทำให้เดินกระย่องกระแย่ง แบบคนพิการ ไปไหนลำบาก





นั่นเป็นระดับตื้นครับ ระดับลึกที่แท้จริงเบื้องหลังประเพณีก็คือ เป็นอุบายทางกามอันแยบยลของชายโดยแท้ หากลองมาพิศดูร่างกายของหญิง จะพบว่าต้นขาทั้งสองตรงหว่างกลางนั้นเป็นจุดเนินสวรรค์ ซึ่งเพศชายกระสันฝันหายิ่งนัก

ที่ตั้งของอวัยวะส่วนนั้น แน่นอนว่า กล้ามเนื้อต้นขามีส่วนกำหนดเป็นอย่างยิ่ง จะพบว่า หากลองเขย่งเท้าเดินดู กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทั้งหมด มักจะจะตึงเกร็งไปถึงต้นขาโดยอัตโนมัติ

นี่คือ อุบายสวาทของนักเพศศาสตร์จีนคิดค้นขึ้น การเดินเขย่งเกร็งกอยมาแต่วัยเด็ก ย่อมเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ต่อเนื่องกันแน่นตึง เหมือนนักกีฬาเล่นกล้ามไม่ต่างกัน

และจุดยุทธศาสตร์รักของหญิงแห่งนั้น ย่อมอวบพีแน่นหนั่น อันเป็นคุณสมบัติทางสรีระที่ชายผู้เชี่ยวกามพึงประสงค์ในคุณภาพทางเพศ

ประเพณีเร้นรักอันนี้ยืนยาวมาหลายสมัยนับเป็นศตวรรษ ที่ดรุณีจีนต้องทนอยู่ในความลำบาก ชนิดมีสำนวนจีนกล่าวว่า

“รัดเท้าแต่เด็ก โตขึ้นน้ำตาเล็ดเต็มตุ่ม” เพียงแค่สนองคุณภาพทางเนื้อหนัง เพื่อสร้างความหฤหรรษาทางกามกรีฑาของชายโดยแท้

ชายทุกคนล้วนต้องการสาวตึงเปรี๊ยะเนื้อแน่นหนั่นในความใฝ่ฝันทั้งสิ้น

กลับมาปัจจุบัน การเดินเขย่งบนรองเท้าส้นสูง นับว่ามีส่วนใกล้เคียงกัน เพียงแต่สาวๆ ยุคใหม่จะใส่ส้นสูงต่อเมื่อโตพอสมควรแล้ว และไม่ได้ใส่ทุกเวลา ยามสบายๆ ก็ไม่ยอมทนเมื่อยน่อง จนตะคริวแทบกิน แถมซ้ำยังเสี่ยงน่องโป่ง หรือเส้นเลือดขอดอีกด้วย มันจึงไม่ค่อยได้ผลสมบูรณ์เหมือนสาวจีนรัดเท้าโบราณ ที่สำคัญ สาวปัจจุบันใส่ส้นสูงเพราะแฟชั่น ดีไซน์สวย เหมาะสมตามอาชีพการงาน และเพื่อให้ขาดูเรียวงาม เสริมบุคลิก

ถ้าประเด็นเรื่องกระชับเนินสวาท จะเน้นไปทางเคล็ดลับย่นย่อเทรนด์นิยมยุคนี้ นั่นก็คือ การฝึกขมิบให้เป็นกิจวัตร ซึ่งทำได้ตลอดเวลา ทุกที่ ทุกโอกาส

การขมิบจึงเป็นกลายเรื่องไม่ลับของที่เร้นลับที่สาวสมัยใหม่ บอกกล่าวถ่ายทอดเทคนิคฮาวทูร่วมสมัย โดยได้ยินกันอยู่ ได้รู้กันดี

แต่บางอาชีพของสาวๆ ที่น่าเพ่งเล็งของชายชอบรัก เห็นจะเป็นประเภทนางแบบ นักบัลเล่ต์ หรือนักยิมนาสติก

เพราะที่ว่ามานี้ล้วนเขย่งเกร็งกอยกันเป็นนิจ อาจจะทำให้คุณสมบัติพิเศษนี้ได้รับการดูแลรักษา เป็นเสน่ห์ทางเพศ ที่มีแรงดึงดูดอันฉมัง สำหรับรักร้อนซ่อนเร้น มัดใจคู่รักคู่เคียงได้ชะงัดดี นอกจากรูปร่างที่เย้ายวนแล้ว

ที่มา
ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น