วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553

whitening แต่ละชนิดต่างกันยังไงนะ

whitening แต่ละชนิดต่างกันยังไงนะ

ในคนเอเซีย มีค่านิยมตั้งแต่ดั้งเดิมแล้วว่า การที่มีสีผิวขาว นวลเนียน ย่อมนำมาซึ่งเสน่ห์ดึงดูดใจต่อเพศตรงข้าม ไม่ว่าชาย หรือ หญิง ดังนั้น จึงมีหลายคนที่พยายามเปลี่ยนแปลงสีผิวของตนเอง ให้ขาวขึ้นๆ


ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับผิวหนังและสีผิว
1. ผิวหนัง
ทำหน้าที่ในการปกป้องสิ่งที่อยู่ในร่างกายจากภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ เชื้อโรค และอื่นๆ

2. การป้องกันอันตรายของรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงแดด
อันนำมาซึ่ง ความแก่ ริ้วรอย มะเร็งผิวหนัง ฯลฯ ทำให้ร่างกายต้องสร้างเม็ดสี melanin pigments เพื่อป้องกัน แต่เม็ดสีเหล่านี้ จะแตกต่างกัน ทั้งคุณสมบัติด้านกายภาพ ทางเคมี หรือ ชีวเคมี ในแต่ละคน เชื้อชาติ กรรมพันธุ์ จึงทำให้คนเรามีสีแตกต่างกัน

3. ขบวนการในการสร้างเม็ดสีในร่างกาย
เราเรียกว่า Melanogenesis ถ้าทำงานมากหรือ น้อยเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาสีผิวแตกต่างได้ อาทิ เกิดฝ้า กระ รอยหมองคล้ำ รอยด่างขาว ขี้แมลงวันในคนสูงอายุ กลไกการสร้างตามขบวนการดังกล่าว มีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้

melanocyte (เซลล์ชนิดหนึ่งในชั้นผิวหนังกำพร้า) ประกอบด้วยส่วนประกอบที่เรียกว่า Melanosome ซึ่งใช้ เอนไซม์ Tyrosinase ในการผลิตเม็ดสี Melanin

ดังนั้น ครีม หรือสารทั้งหลาย ที่จะทำให้สีผิวขาวขึ้น ต้องมีฤทธิ์ในการรบกวน ขบวนการ ขั้นตอน หรือเอนไซม์ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีเมลานินนี้

กลุ่มสารที่ทำให้ผิวขาวขึ้น( Whitening agents) ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด หรือที่คลินิกผิวพรรณทั้งหลาย จำแนกตามกลไกการทำงานได้ดังนี้

1. สารป้องกันแสงแดด เพื่อลดการทำลาย หรือ การสร้างเม็ดสีมากขึ้น ได้แก่ ครีมกันแดดทั้งหลาย

2. รบกวนการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase หรือ Melanosomeในขบวนการสร้างเม็ดสีผิว แบ่งย่อยๆ ได้เป็น
- Hydroquinone เดิมใช้ผสมในครีมรักษาฝ้า เพื่อลดและลบรอยดำจากฝ้า มีส่วนผสมตั้งแต่ 2-5 % HQ แต่ถ้าใช้ติดต่อกันนานๆ จะมีผลข้างเคียงได้ และทำให้ฝ้ากลับมาเป็นใหม่ได้จากผลของยาเอง ดังนั้นในปัจจุบัน ทางอ.ย ของไทย จึงห้ามผสมในเครื่องสำอางค์ แต่ในคลินิก ถ้าอยู่ในความดูแลของแพทย์ ยังสามารถใช้ได้
- Vitamin C อาจในรูปของสารละลาย (สำหรับใช้ในการทำไอออนโต) หรือในรูปของครีมทาผิว หรือ การรับประทานวิตามินซีเม็ด ซึ่งกรณีการรักษาฝ้า แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานวิตามิน C ควบคู่ไปด้วย ประมาณ 100-200 มก.ต่อวัน
- Kojic Acid ซึ่งใช้เป็นส่วนผสม ของผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ครีมรักษาฝ้า ครีมทาหน้าขาว
- Arbutin ส่วนประกอบคล้ายๆ ไฮโดรคลิโนน แต่ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์เมลานิน ในคลินิกผิวหนัง มักนำมาใช้รักษาฝ้า แทน ยาไฮโดรคลิโนน แม้ให้ผลการรักษาช้ากว่า แต่ก็มีผลข้างเคียงน้อย
- Licorice เป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากแป้งสาลี ชะเอม ปัจจุบันนิยมนำมาผสมในเครื่องสำอาง เช่นแป้งรองพื้น ครีมบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ลิปติค ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ( ซึ่งในปัจจุบัน ในโฆษณาทางทีวี หรือสื่อต่างๆ จะบ่งว่าใช้ส่วนผสมของสารตัวนี้ เพราะมีความคงตัวมากกว่า สารตัวอื่นๆ ในกลุ่มนี้ )
- สารสกัดทางธรรมชาติ ซึ่งจะมีการค้นคว้าอีกมากมาย แต่ยังไม่ฮิตติดอันดับสำหรับการนำมาใช้เท่าสารเคมีที่กล่าวมาข้างบน อาทิ Green Tea Extract, Compositae(สารสกัดจาก matricaria)แต่ในอนาคตอาจมีสารกลุ่มนี้มากขึ้นกว่านี้

นอกจากนี้ การทำให้สีผิวขาวขึ้น ด้วยการทำ Peeling การทำไอออนโต การทำ Phonophoresis การขัดผิวให้ขาว ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากขาว

แท้ที่จริง การมีผิวพรรณที่ขาวสะอาดสะอ้าน ในแง่ความปลอดภัยจากแสงแดด จะสู้คนผิวดำไม่ได้ เพราะมีความสามารถในการกลั่นกรอง ป้องกันอันตรายจากสิ่งภายนอกได้น้อยกว่า

แหล่งที่มา : คลีนิกนีโอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น